![]() ภาพที่ 7B
|
||
1. Microvilli (รูปภาพที่
5B) หรือ brush (striated) border (เรียกในระดับ LM) มีลักษณะ คล้ายขนแปรงจำนวนมาก
ยื่นออกจาก luminal (apical) cell membrane ของเซลล์เนื้อผิวรูปทรง กระบอก
ที่ดาดในลำไส้เล็ก หรือท่อไตส่วนต้น หน้าที่ของ microvilli นอกจากเพิ่มพื้นผิวในการ
ดูดซับสารหรือของเหลวที่ผ่านเข้าท่อแล้ว ยังให้เป็นที่เกาะของน้ำย่อยหลายชนิด
รวมทั้งเป็นแหล่ง ทำการย่อยของโปรตีนโมเลกุล บริเวณดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า
glycocalyx or cell coat ในการศึกษาภาพอิเลคตรอน microvilli มีลักษณะสั้น แคบ คล้ายนิ้วมือ ขนาดเท่ากัน ยื่นออกจากผิวเปลือกนอกเซลล์ คือคลุมอยู่เหนือ cytoplasm ดังนั้นพวก glycocalyx ก็คือ integral protein ที่ยื่นมาจากเนื้อไขมัน ตรงบริเวณผิวบนของ microvilli แกนของ microvillous บรรจุ actin microfilaments (รูปภาพที่ 7A) เรียงตัวตามยาว เป็นระเบียบ มีหน้าที่เกี่ยวกับการเคลื่อน microvilli ด้วยการหดตัว คล้ายกับการหดตัวของกล้ามเนื้อลาย
|
||
2. Stereocilia (รูปภาพที่ 5B) มีลักษณะคล้าย microvilli แต่ยาวกว่า ทำให้เห็นรวมกัน เป็นกระจุก พบที่ผิวส่วนยอดของเซลล์เนื้อผิว ที่ดาดท่อทางเดินอสุจิ ในส่วน ductus epididymis มีลักษณะทาง TEM เช่นเดียวกับ microvilli แต่มีขนาดยาวเท่า cilia การเคลื่อนที่แบบพัดโบกไม่ได้ เช่น cilia | ||
3. Cilia (รูปภาพที่ 5B) มีลักษณะยาว ยื่นออกจากผิวส่วนยอด ของเซลล์เนื้อผิวที่ดาดท่อ เดินอากาศ เช่น trachea, bronchi มักเรียกเซลล์เนื้อผิวชนิดนี้ว่า respiratory epithelium โดย cilia นั้นยาว และเคลื่อนที่แบบพัดโบก ไล่เศษฝุ่นซึ่งติดมากับอากาศที่หายใจเข้า ในระดับ TEM แกนของ cilia ประกอบด้วย microtubules ที่เรียงเป็นกลุ่มเรียก axoneme (9 doublets + 2 central singlet arrangement) นั่นคือ วงกลมนอกมี microtubule เรียงเป็นวงอยู่เป็นคู่ จำนวน 9 คู่ แต่ละคู่ มีผนังบางส่วนร่วมกัน ส่วนวงกลมในเป็นแกนกลาง มี microtubule เรียงเป็นวง 2 อัน อยู่แยกกัน (รูปภาพที่ 7B วงกลมเล็ก C) | ||
5. Intercellular bridge (รูปภาพที่ 6B) เป็นการเปลี่ยนแปลงเยื่อผิวเปลือกด้านข้างของ พวกเซลล์ที่ทำหน้าที่ยึดติดกับเซลล์ข้างเคียง พบในเซลล์เนื้อผิวของหนังกำพร้า โดยเฉพาะชั้น spinosum เซลล์พวกนี้มี intercellular bridges ยึดติดกับเซลล์ข้างเคียง ในระดับ TEM คือ macula adherens หรือ desmosomes (รูปภาพที่ 7B วงกลมเล็ก G) |
||
รูปภาพที่
7B วงกลมเล็ก I) มี mitochondria เรียงตัวตามยาว แทรกอยู่ใน cytoplasm
หน้าที่ของ infolded basal membrane คือ เป็นแหล่งที่ตั้งของ integral proteins
ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับ Na pumps
ในระดับ TEM, tight junction มีลักษณะเป็นจุดสัมผัส ที่เยื่อผิวเปลือกของเซลล์ทั้งสอง ที่อยู่ชิดกัน มีระยะห่างกัน เป็นระยะตามแนวตั้ง โดยจุดที่สัมผัสก็คือ สันขนาดเล็ก (รูปภาพที่ 7B วงกลมเล็ก E) - Zonula adherens (desmosome) ลักษณะเป็นแถบวงรอบตัวเซลล์ และยึดติดกับเซลล์ ข้างเคียง พบถัดลงมาจาก zonula occludens ศึกษา TEM พบเป็นช่อง ขนาดกว้าง 15-20 นาโนเมตร ระหว่างผิวเปลือกเซลล์ที่อยู่ข้างเคียงกัน และภายในช่องบรรจุสารที่ติดสี electron density ต่ำ แต่บริเวณ cytoplasm ที่ติดกับผิวเปลือก ตามแนวของช่องทั้งสองข้างของเซลล์ พบสารติดสี electron dense ขนาดกลาง และสัมพันธ์กับเส้น microfilaments ขนาด 6 nm (รูปภาพที่ 7B วงกลมเล็ก F) - Macula adherens (desmosome) เป็นบริเวณเฉพาะที่ซึ่งมีการเชื่อมติดกันระหว่างเซลล์ ในภาพ TEM พบ tonofilaments สัมผัสกับสารติดสีเข้ม ที่เรียกว่า plaque อยู่บริเวณด้าน cytoplasm ทั้งสองข้าง ที่ขนานกับผิวเปลือกเซลล์ 2 เซลล์ที่อยู่ชิดกัน และช่องว่างระหว่างผิวเซลล์ 2 เซลล์นั้น บรรจุสารติดสีเข้ม เข้าใจว่าเป็นสารที่เชื่อมติดระหว่างเซลล์ (รูปภาพที่ 7B วงกลมเล็ก G) เซลล์เนื้อผิวบางบริเวณมี desmosome ที่มีลักษณะเปลี่ยนไปเป็น hemidesmosome เนื่องจากเซลล์เนื้อผิวบริเวณนั้น ต้องการความแข็งแรงในการยึดติดแน่นกับเนื้อประสาน ไม่ใช่ยึดกับเซลล์ข้างเคียง เช่น เนื้อผิวของ cornea เซลล์ผิวหนังชั้นล่างสุด mucosa ของช่องปาก หลอดอาหาร และช่องคลอด โดยพบ hemidesmosomes ที่ด้านฐานของเซลล์ เนื้อผิว เพื่อเพิ่มความแข็งแรงในการยึดกับ basal lamina (รูปภาพที่ 7B วงกลมเล็ก J) |
||