โดยปกติทำในท่า supine สำหรับคนไข้ที่ผอมควรใช้ 60 kVp เพื่อให้ได้ soft tissue contrast ที่ดี 
(ดังรูป a01) 
         ในการดู plain abdominal film ควรสังเกต สิ่งต่างๆ ต่อไปนี้คือ 
          1. Soft tissue density เช่น อวัยวะต่างๆ ในช่องท้องมีก้อนหรือไม่ 
          2. ปริมาณและการกระจายของ gas ในลำไส้ 
          3. มีกลุ่มแก๊สผิดปกติในและนอกทางเดินอาหารหรือไม่ 
          4. Calcification ในช่องท้อง 
          5. กระดูกและฐานของปอด 
          อนึ่งน้ำใน fundus ของกระเพาะอาหารหรือลำไส้ อาจมีลักษณะคล้ายก้อนตับอยู่ใน 
right upper quadrant (RUQ)  การกะขนาดของตับโดย เอกซเรย์นั้นไม่แม่นยำนัก 
ไตจะอยู่ในแนวเฉียงขนานกับ psoas muscles จาก lower thorasic spine ถึง L2 หรือ L3 ไตซ้ายปกติจะอยู่สูงกว่าไตขวา 1-2 ซ.ม. แต่มี variation มาก  ม้ามอยู่ใน low upper quadrant (LUQ) ยาวประมาณ 8-12 ซ.ม. 
รูป a01
Plain abdomen: L = liver;  S = spleen;  K = kidney;  P = psoas muscle

            การถ่ายภาพเอกซเรย์ต้องระวังให้ขอบล่างของ film คลุมถึง obturator foramen เพราะมี 
ความผิดปกติหลายชนิด ซึ่งอาจจะมองข้ามไปได้หากคลุมไม่ถึง เช่น inguinal หรือ femoral hernia (รูป a02) ที่อาจทำให้เกิด small bowel obstruction, calcification ของ pelvic tumor หรือ abnormal calcification ก็อาจจะไม่เห็นถ้าตั้ง center สูงเกินไป โดยไม่รวม pubic symphysis  ดังนั้นในคนไข้ที่ลำตัวข้างยาว 
อาจต้องใช้ cone-down view ของ pelvis ร่วมด้วย 


รูป a02
การทะลุของ sigmoid colon ขณะทำ sigmoidoscopy จะเห็น free air ใน right inguinal hernia (ลูกศร),
sigmoid colon ใน left inguinal hernia แสดง double wall sign (หัวลูกศร)

          Properitoneal fat strip เป็น retroperitoneum fat ที่อยู่ระหว่าง transversalis muscle ของผนังช่องท้อง กับ peritoneum ที่บุช่องท้อง (ดังรูป a03) 


รูป a03
ภาพของผนังช่องท้องด้านข้าง แสดงให้เห็น properitoneal fat line  (ลูกศรหนา) และกล้ามเนื้อทั้งสามชั้นของผนังช่องท้อง (ลูกศรบาง)

          กระเพาะปัสสาวะจะมี fat ล้อมรอบ โดยจะเห็นชัดทางด้าน dome เรียกว่า perivesical fat 
(ดังรูป a04) 


รูป a04
ภาพของ perivesical fat (ลูกศร)