การฉีดยาฟีนอลมี 2 วิธีใหญ่ ๆ คือ
1. |
Nerve block ที่ระดับไขสันหลัง(26-28)
โดยใช้วิธี intrathecal, epidural,
paravertebral, foraminal injection พบว่ามี complication มากมาย คือ
cord
infarction, root damage, meningitis, arachnoiditis, motor & sensory
ablation,
bowel & bladder incontinence, painful paresthesia, severe headache
หรือเสียชีวิตได้ |
2. |
Nerve block ที่ระดับเส้นประสาท มี 4 วิธี คือ
2.1 |
Closed perineural injection of nerve trunk (29-30)
Khalili ปี 1964
เป็นผู้เริ่มทำ ปัจจุบันได้เลิกใช้การฉีดโดยวิธีนี้แล้ว |
2.2 |
Closed motor branch block โดยเลือกฉีดเฉพาะเส้นประสาทที่เป็น pure
motor nerve เช่น recurrent branch of median nerve, obturator nerve,
สำหรับ musculocutaneous nerve แม้จะเป็นเส้นประสาทที่มีทั้งเส้น
ประสาทสั่งการและเส้นประสาทรับความรู้สึก แต่ก็สามารถฉีดด้วยวิธีนี้
โดยพบว่ามี side effect น้อยมาก(31-32) |
2.3 |
Open motor branch block พบว่าใช้เทคนิคนี้ ฤทธิ์ของยาฟีนอลจะอยู่ได้
นานขึ้นเฉลี่ย 2-3 เดือน โดยใช้น้ำยาฟีนอล2-3% ในน้ำ(33) ถ้าใช้
3-5% ใน
glycerin พบว่าระยะเวลาการออกฤทธิ์จะนานขึ้นอีกเฉลี่ย 2-8 เดือน โดยมี
complication น้อยมาก การฉีดยาด้วยวิธีนี้ จะเลี่ยงการฉีดไปโดนเส้น
ประสาทรับความรู้สึก จึงลดการเกิด painful paresthesia ได้ และฤทธิ์ของ
ยาอยู่ได้นาน แต่มีข้อเสียคือ ต้องผ่าตัดเพื่อเข้าไปหาเส้นประสาท(34,35) |
2.4 |
Intramuscular motor point block(14,36-38)
คล้ายกับการฉีด closed motor
branch block แต่จะฉีดเข้าไปที่ตำแหน่ง "motor points" ภายในกล้ามเนื้อ
คือตำแหน่งที่แขนงของ motor nerve ผ่านเข้าไปในกล้ามเนื้อ หรือบริเวณ
ที่มีจำนวน motor end plates มากที่สุด(14,39)
การฉีดยาฟีนอลด้วยวิธีนี้
แม้ว่าระยะเวลาการออกฤทธิ์ของยาจะสั้นกว่าวิธี open block แต่ผู้ป่วยไม่
ต้องผ่าตัด และสามารถลดอัตราการเกิด painful paresthesia ได้เช่นกัน
การฉีดยาโดยวิธีนี้จึงเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน และสามารถ
ใช้ในการ block กล้ามเนื้อที่เลี้ยงด้วย mixed nerves ได้ด้วย(14,35) |
ในประเทศไทย ได้มีการศึกษาถึงการใช้น้ำยาฟีนอลรักษาผู้ป่วยกล้ามเนื้อหดเกร็ง
ตั้งแต่ พศ. 2533 (40) |
|