การที่เลือกใช้วิธีรับประทานกลูโคสแทนที่จะฉีดเข้าเส้นเลือด
เนื่องจากทำให้เข้ากับสรีรวิทยา จริงเพราะสตรีตั้งครรภ์ได้รับกลูโคส จากการรับประทานอาหารเข้าไป
นอกจากนี้ยังเป็นการประเมิน
ระบบทางเดินอาหาร ซึ่งมีผลต่อการหลั่งอินสุลินของร่างกายด้วย การตรวจทำโดยให้ผู้ป่วยงดน้ำ และอาหารประมาณ 8-12 ชั่วโมงและตรวจระดับน้ำตาลในเลือดในตอนเช้า หลังจากนั้นให้ผู้ป่วย รับประทานกลูโคสปริมาณ 100 กรัม และตรวจระดับน้ำตาลในเลือด หลังจากรับประทานกลูโคส ไปเป็นเวลา 1, 2 และ 3 ชั่วโมงตามลำดับ เกณฑ์ในการวินิจฉัยว่ามีภาวะ GDM คือ ค่าผิดปกติ ตั้งแต่ 2 ค่าขึ้นไป โดยค่า Cut-off ในแต่ละระยะเวลาดังใน ตารางที่ 1(20) |
ตารางที่ 1 เกณฑ์ในการวินิจฉัย GDM : พบค่าผิดปกติตั้งแต่ 2 ขึ้นไป | ||||||||||||||||||||
**plasma or serum, glucokinase or hexokinase method; ***plasma or serum, glucokinase or hexokinase method. |
ค่า
Cut-off ที่การประชุม 4th IWC แนะนำเป็นผลจากการศึกษาของ Carpenter
และ Couston ในปี พ.ศ.2525(22)
ซึ่งพบว่าค่า Cut-off ที่ใช้เดิมสูงเกินไป ทำให้มีสตรีตั้งครรภ์ที่มีปัจจัย
เสี่ยงต่อภาวะทุพพลภาพจาก GDM รวมทั้งทารกตัวโตไม่ได้รับการวินิจฉัย และดูแลรักษาอย่าง ถูกต้อง อย่างไรก็ดี Rust และคณะพบว่าการลดค่า Cut-off ในการวินิจฉัย GDM ลงไม่ได้ช่วยให้ ผลลัพธ์ของทารกปริกำเนิดเปลี่ยนแปลงไป และยังแนะนำให้ใช้เกณฑ์ของ ACOG ต่อไป(23) |
ในบางประเทศ การตรวจวินิจฉัยภาวะ GDM จะใช้ 75-g OGTT
โดยตรวจระดับน้ำตาล
ในเลือดหลังรับประทานกลูโคสเพียง 2 ครั้งคือ 1 และ 2 ชั่วโมง หากใช้วิธีดังกล่าวค่า Cut-off ที่ใช้ จะมีค่าเท่ากับ 95, 180 และ 155 มก/ดล. เมื่องดอาหารและ 1, 2 ชั่วโมงหลังรับประทานกลูโคส ตามลำดับ ซึ่งการประชุม 4th IWC ได้เสนอการตรวจ 75-g OGTT เพียงครั้งเดียวแทนการตรวจ กรองด้วย OGCT และตามด้วย OGTT ในปัจจุบัน(17) อย่างไรก็ตามการนำมาใช้ในทางปฏิบัติ ยังคงต้องทำการศึกษาในกลุ่มประชากรที่มีขนาดใหญ่เสียก่อน |