การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา และพยาธิสรีรวิทยาในวัยหมดระดู... | ||
การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจและอารมณ์
(3,4,17)
ความสัมพันธ์ของการเข้าสู่วัยหมดระดู และการเปลี่ยนแปลงของจิตใจและอารมณ์เริ่มจาก การสังเกตพบอาการซึมเศร้าในสตรีที่อยู่ในภาวะที่มีการลดลงของระดับเอสโตรเจน เช่น ภายหลัง คลอดหรือช่วงท้ายของระยะ luteal ของรอบระดู โดยเฉพาะในสตรีที่มีกลุ่มอาการก่อนมีระดู (premenstrual syndrome) นอกจากนี้ จากการศึกษาทางประสาทวิทยา พบว่าเอสโตรเจนอาจมี ผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสารส่งผ่านประสาท (neurotransmitter) ในสมองที่มีผลต่ออารมณ์ และจิตใจ อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาวิจัยทางคลินิกจากต่างประเทศ กลับไม่พบความสัมพันธ์ ของการเกิดอาการทางจิตใจ และการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์กับการเข้าสู่วัยหมดระดู สำหรับการศึกษาถึงความชุกของอาการทางจิตใจ และการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของ สตรีวัยหมดระดูในประเทศไทย มีการศึกษาทั้งในกลุ่มสตรีโดยทั่วไปในกรุงเทพมหานคร และกลุ่ม สตรีวิชาชีพพยาบาลในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พบว่า อาการในกลุ่มนี้ที่พบตรงกันว่าสูงขึ้นใน วัยใกล้หมดระดูและวัยหมดระดู คืออาการนอนไม่หลับ (6,18) ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาการ ทางจิตใจ อารมณ์ และอาการทางกาย ทั้งนี้พบว่าสตรีที่เข้าสู่วัยหมดระดูกลุ่มหนึ่งจะเกิดอาการ hot flushes ซึ่งมักเกิดในเวลากลางคืน จึงรบกวนต่อการนอน โดยปกติการนอนหลับสามารถแบ่งได้เป็น 2 ระยะคือ ระยะ rapid-eye-movement (REM) และระยะ non-rapid-eye-movement (NREM) ระยะ NREM ประกอบด้วย 4 ขั้น คือ ขั้นที่ 1, 2, 3, และ 4 เมื่อเริ่มต้นนอน การหลับจะดำเนินจาก NREM sleep ขั้นที่ 1 ไปจนถึงขั้นที่ 4 ซึ่งใช้เวลา ประมาณ 45-60 นาที จากนั้นจะเข้าสู่ระยะ REM sleep ตลอดคืนของการนอนหลับจะมีวงจร สลับกันระหว่าง NREM และ REM เป็นระยะเวลารวมกันรอบละ 90-110 นาที การเกิด hot flushes ทำให้ระยะการหลับไม่สามารถดำเนินไปอย่างราบรื่น เกิดการตื่นขึ้นเป็นระยะๆ (รูปที่ 3) (19) อาการ hot flushes ที่เกิดขึ้นอาจรุนแรงพอที่จะปลุกให้รู้สึกตัวตื่นขึ้น หรือ เกิดเพียงเล็กน้อย โดยไม่ทำให้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา แต่มีผลทำให้หลับไม่สนิท จึงทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย อ่อนเพลีย หงุดหงิดไม่มีสมาธิ และหลงลืมง่าย(3,4,13,19)
|