คำอภิปรายของวิทยากร
อ.สุวิมล การออกใบรับรองแพทย์เป็นเท็จ เป็นความผิด ป.อ.มาตรา 269
ผู้ใดในการประกอบการงานในวิชาชีพแพทย์ กฎหมาย บัญชีหริอวิชาชีพอื่นใด ทำคำรับรองเป็นเอกสารอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
คำร้องตาม ป.อ.มาตรา 269 ได้แก่ ใบรับรองแพทย์สำหรับลางาน สมัครงาน รวมทั้งการเลื่อนนัดของศาล ตลอดจนรายงานต่างๆ ที่ให้พนักงานสอบสวน อัยการ ศาล
อ.สุขิต ขณะนี้เริ่มจะมีการพิจารณาให้เป็นข้อบังคับของแพทยสภา เกี่ยวกับการรับทุนสนับสนุนจาก บริษัทยา คือ
  1. ไม่รับของมูลค่ามากกว่า 500 บาท
  2. เมื่อรับสิ่งใด เช่น ค่าเดินทางไปประชุมต้องแจ้งแพทยสภา และเขียนรายงาน
อ.อำนาจ เรื่องการรับผลประโยชน์ เป็นปัญหาที่กระทบกระเทือนวิชาชีพ และได้หยั่งรากลึกลงไปเรื่อยๆ โดยที่เรามีความต้องการอยากได้ของฟรี หยิบฉวยได้ง่าย แต่หน้าที่แพทย์เป็นผู้ให้ ไม่ใช่ผู้รับ การเสนอของบริษัทยาเป็นการตลาด ทำให้เรากลายเป็นตัวแทนหรือ detail ของบริษัทยา ปัญหาอยู่ที่ว่า แค่ไหนถึงจะไม่ผิด คงต้องดูที่เจตนา ถ้ามีเจตนาไม่ว่ามากหรือน้อยก็ผิด ถ้าเป็นการบริจาคให้ส่วนกลาง ก็อาจรับได้ และส่งต่อให้ภาควิชาฯ รับไปจัดการตามความเหมาะสม แต่ถ้ารับเป็นของตนเอง เป็นการไม่สมควร บริษัทยาจะรู้ได้ว่า ใครเป็นผู้ที่เขาจะเสนอได้ง่าย
อ.ปรีดา ในกรณีศึกษานี้ มี 3 เรื่อง คือ
  1. ผลประโยชน์ที่คนอื่นเอามาให้
  2. การวิจัย
  3. ใบรับรองแพทย์
  เรื่องผลประโยชน์นั้น ข้อสำคัญที่พึงยึดถือ คือ
  1. รับแล้วต้องไม่มีข้อผูกพัน (string attach)
  2. รับมาแล้ว ต้องให้ส่วนกลางหรือมีกรรมการเป็นผู้พิจารณา
  3. ดูที่เจตนา โดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นหลัก อยู่ที่มโนสำนึกของแต่ละคน ว่าจะรู้หรือไม่ ไม่รับด้วยความฉ้อฉล เอาเงินของผู้อื่นมาสร้างบารมีแก่ตัวเอง หรือเบียดเบียนเวลาของผู้อื่น ในวัฒนธรรมไทยนั้น เราชอบให้ของแก่ผู้อื่น ในแง่ของสังคม การปฏิเสธน้ำใจของผู้อื่นทำให้เกิดการเสียหน้าขึ้น ฉะนั้นจึงควรมีวิจารณญาณว่า มารยาทของสังคมเป็นอย่างไร และจะมี string attach หรือไม่ เช่น ข้อผูกพันที่ว่าต้องให้บริษัทยาพิจารณาผลการศึกษาก่อนเผยแพร่นั้น ไม่ถูกต้อง แสดงถึงความไม่ตรงไปตรงมา
อ.เทวี เรื่องของการฉีดวัคซีนนั้น บางบริษัทสามารถเบิกค่าฉีดวัคซีนได้ อย่างไรก็ตาม ควรเขียนใบรับรองแพทย์ตามความเป็นจริง ใบเสร็จออกเฉพาะค่ายา หรือแยกให้เห็นอย่างชัดเจน
อ.กิจประมุข วันที่ 30 พฤศจิกายน 2543 ป.ป.ช ได้ประกาศชัดเจน เรื่อง การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลอื่น เกิน 3,000 บาทไม่ได้ ถ้ามากกว่าที่กำหนด ต้องแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ โดยมติของ ค.ร.ม. เห็นชอบให้ ก.พ.สร้างข้าราชการที่โปร่งใส แบบตรวจสอบได้
อ.สุขิต การเขียนเอกสารเท็จนั้น สะท้อนถึงความไม่สุจริตของแพทย์ผู้เขียน ผู้ที่รู้เรื่องระยะแรกคือแพทย์ และผู้ป่วย บริษัทจะถูกเรียกเก็บเงินโดยไม่ถูกต้อง ถ้าความลับนี้รู้ไปถึงบริษัท กลายเป็นที่รับรู้ของสังคม ทำให้หมดความไว้วางใจ และเกิดผลเสียตามมา
อ.กิจประมุข เรื่องเช่นนี้ ทางบริษัทมีรายชื่อไว้ ต่อไปถึงจะออกใบรับรองจริงก็ไม่มีใครเชื่อถือ เหมือนสุภาษิต ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน
อ.อำนาจ

ในกรณีเช่นนี้ มีผู้เกี่ยวข้องมากกว่าที่คิดไว้ ซึ่งจะโยงใยถึงกันหมดเช่นนี้

องค์กรวิชาชีพ เพื่อนร่วมวิชาชีพ ผู้จัดการ บริษัท (ประกันคุณภาพ) บริษัทยา หมอโสมวรรณ หลานชาย คนไข้,ประชาชน OPD card แพทย์ประจำบ้าน บุตร

  ประเด็นในเรื่องนี้คือ
  - การวิจัย
  - ผลประโยชน์
  - เอกสารอันเป็นเท็จ
  - ผลกระทบต่อประชาชน
  - ตัวอย่างที่ไม่ดี
  - เกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
  ทั้งหมดนี้ ถ้า role model ไม่ดี จะเกิดทำให้เกิดความดื้อด้าน ชินชา เราต้องรู้จักหน้าที่ ไม่เห็นแก่ได้ รู้จักปฏิเสธ ป้องกันการเกิดความโลภ โกรธ หลง
อ.ปรีดา การวิจัยนั้นต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการ บริษัทยาขอดูผลการวิจัยได้ แต่การนำเสนอผลงานวิจัยนั้น เป็นสิทธิของผู้ทำ
อ.นเรศ การสร้างภูมิคุ้มกันในการประกอบวิชาชีพให้ถูกจริยธรรมนั้น ควรประกอบด้วยความรู้จักพอ รู้จักความละอาย ความเกรงกลัวต่อบาป และความไม่ประมาทในการใช้จ่าย ใช้จ่ายให้พอกับรายรับ มีการวางแผน และปรับให้พอดีกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
อ.สุขิต การออกใบรับรองแพทย์เท็จนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ต้องลงตามความเป็นจริง ต้องรู้ทันคนไข้ที่ขอให้เปลี่ยนชื่อโรค ลงโรคเกินความจริง หรือจะให้ออกใบรับรองแพทย์ย้อนหลัง แพทย์ไม่ควรทำ เพราะผิดจริยธรรม มีผลให้ความน่าเชื่อถือของแพทย์ลดลง
อ.อำนาจ สรุปผลจากกรณีศึกษานี้ คือ
  1. ห้ามรับเงิน
  2. กรณีที่บริษัทต้องการให้การสนับสนุน ควรติดต่อผ่านองค์กร ไม่ติดต่อโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิดข้อผูกพันโดยไม่รู้ตัว
  3. การตีพิมพ์บทความ ต้องมีการรับรองว่าทำได้
  4. ห้ามรับค่าตอบแทนในกรณีที่ส่ง investigate
  ผลกระทบในรายนี้ นอกจากเกิดแก่ตัวแพทย์เอง ยังเกิดกับผู้ร่วมงาน คนไข้ และองค์กรรวมของแพทย์ด้วย