บทนำ
ในการตอบสนองต่อแอนติเจนด้าน humoral immune response นั้น B lymphocyte ที่ได้รับการกระตุ้นจะมีการเพิ่มจำนวนและแบ่งตัวกลายเป็น plasma cell สร้างอิมมูโนโกลบุลิน (immunoglobulin - Ig) และหลั่งออกมาสู่กระแสโลหิต และสิ่งคัดหลั่งต่างๆ ทั่วร่างกาย ทำหน้าที่เป็นแอนติบอดี ซึ่งสามารถจับกับแอนติเจนอย่างจำเพาะและก่อให้เกิดผล (effector function) ต่างๆ ตามมาเพื่อทำลายแอนติเจนนั้นๆ ในเลือดแอนติบอดีจะอยู่ในน้ำเหลือง (serum) และน้ำเหลืองที่มีแอนติบอดีมากมักเรียก antiserum ถ้านำน้ำเหลืองมาแยกโปรตีนด้วยกระแสไฟฟ้า (electrophoresis) พบว่าอิมมูโนโกลบุลินส่วนใหญ่จะอยู่ในส่วนของ gamma (g) globulin มีบางส่วนเป็น beta (b) และ alpha (a) globulin (รูปที่ 1) คนปกติมีปริมาณของอิมมูโนโกลบุลินประมาณ 20% ของโปรตีนในน้ำเหลือง ส่วนผู้ที่กำลังมีการติดเชื้อหรือมีการตอบสนองต่อแอนติเจนต่างๆ ระดับจะสูงขึ้น นอกจากในสารน้ำแล้ว ยังสามารถพบอิมมูโนโกลบุลินบนผิวของ B lymphocyte เรียก membrane-bound Ig (mIg) หรือ surface Ig (sIg) ทำหน้าที่เป็นที่รับ (receptor) สำหรับแอนติเจนที่จำเพาะต่อกันและเริ่มขบวนการการตอบสนองทาง humoral immunity
 
ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย