Abnormalities of the peripheral nervous system
Axonal degeneration
สามารถบอกได้จากการมีจำนวนของ axon ลดลงใน nerve ถ้าเกิดไม่รุนแรงอาจต้องวินิจฉัยด้วยการนับจำนวนของ axon โดยวิธี morphometric analysis แต่ถ้าเป็นมากจะเห็นชัดเจนจากชิ้นเนื้อเมื่อดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ (เช่นใน รูปที่ 7) ในบางกรณีสามารถพบ axonal regeneration ขึ้นมาเพื่อทดแทน axon ที่เสื่อมสลายไปได้ (ดูรายละเอียดในหัวข้อ Regeneration of peripheral nerve) นอกจากนี้ถ้าทำ nerve teasing จะพบลักษณะของ axon ที่เกิดกระบวนการ degeneration ลักษณะที่สำคัญ คือ เห็นการแตกของ myelin sheath ออกเป็นหลายก้อน เรียกว่า myelin ovoid (รูปที่ 7 C)
รูปที่ 7 A
รูปที่ 7 B
รูปที่ 7 C
รูปที่ 7 แสดงภาพตัดขวางของ nerve ปกติ (A), ภาวะ axonal degeneration คือพบมี loss of axon (B) และ axonal degeneration ที่พบจากการทำ nerve teasing (C)
 
Demyelination
อาจเกิดได้จากความผิดปกติที่ myelin sheath และ Schwann cell เป็นหลัก (primary demyelination) หรือเกิดตามหลังความผิดปกติของ axon (secondary demyelination) สามารถวินิจฉัยได้จากการทำ nerve teasing (รูปที่ 8)
รูปที่ 8 teased nerve แสดงส่วนที่มี demyelination (ลูกศรชี้),
* แสดง Node of Ranvier และส่วนล่างกว่าซึ่งเป็น internode ปกติ
 
ในบางกรณีอาจมีการเพิ่มจำนวนของ Schwann cell เข้ามาแทนที่เซลล์ที่ตายไปและมีการสร้าง myelin sheath ขึ้นมาใหม่ เกิดเป็น remyelination ซึ่งสามารถบอกได้จาก myelin sheath ที่บางกว่าปกติเมื่อเทียบกับขนาดของ axon ที่ปรากฏในชิ้นเนื้อหรือพบว่าระยะ internode สั้นกว่าปกติในการทำ nerve teasing นอกจากนี้ถ้ามีกระบวนการ demyelination และ remyelination เกิดขึ้นสลับกันไปมาเป็นระยะเวลานาน ก็จะพบร่องรอยของการสร้าง myelin เป็นวงรอบๆ axon เหมือนกับชั้นของหัวหอมเมื่อผ่าซีก เรียกว่า Onion-bulb formation ซึ่งบ่งชี้ถึง chronic demyelination (รูปที่ 9)
รูปที่ 9 ภาพ nerve ตัดขวาง
แสดง onion-bulb formation (ในวงกลม)
 

ดังนั้นใน nerve เส้นหนึ่งอาจจะพบ degeneration ร่วมกับ demyelination และอาจมี regeneration หรือ remyelination พร้อมกันได้ ขึ้นกับสาเหตุ ระยะหรือความรุนแรงของโรค

กลับหน้าที่แล้วกลับด้านบนอ่านหน้าต่อไป
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย