ลักษณะคลื่นไฟฟ้าหัวใจของผู้ป่วยรายนี้มีลักษณะเป็น
regular rhythm โดยมี QRS rate ช้ากว่าปกติ ลักษณะของ QRS complex เข้าได้กับลักษณะของการมี
right bundle branch block ( มี rSR' ใน right chest leads (V4R และ V1) มี
slurred S ใน left chest leads (I,aVL และ V6) และมีความผิดปกติที่เห็นชัดเจนคือ
มีความผิดปกติในความสัมพันธ์ของ P wave และ QRS complex โดยมีลักษณะดังนี้
1. มี P wave axis ปกติ มี
P wave นำหน้า QRS complex ทุกครั้งและมี PR interval ที่คงที่
2. มี P wave 2 ตัว นำหน้า
QRS complex 1 ตัว โดย P wave ทั้ง 2 ตัวมีลักษณะเหมือนกันและมีระยะ PP interval
คงที่ ลักษณะดังกล่าวเข้าได้กับ type II second degree atrioventricular block
(2:1 AV block)
ในกรณีที่เป็น complete atrioventricular
block หรือ third degree atrioventricular block ลักษณะของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
จะมีลักษณะหัวใจเต้นช้าผิดปกติเช่นกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือไม่มีความสัมพันธ์ระหว่าง
P wave และ QRS complex โดยจะพบว่ามีระยะ RR interval คงที่หรือไม่คงที่ก็ได้
แต่จะมีระยะ PP interval คงที่ และมีระยะเวลา PR interval ไม่คงที่ (AV dissociation)
ใน complete atrioventricular block จะมี atrial rate (PP interval) เร็วกว่า
ventricular rate (RR interval) ซึ่งจะแตกต่างจาก complete atrioventricular
dissociation ที่จะพบว่ามี ventricular rate เร็วกว่า atrial rate
ในกรณีของ type I second degree
atrioventricular block ลักษณะของคลื่นไฟฟ้าหัวใจจะเป็นแบบไม่สม่ำเสมอ (irregular
rhythm) โดยมีลักษณะของ RR interval ไม่คงที่ตลอดเวลา โดยจะเริ่มจากสั้นและยาวขึ้น
โดยมีระยะเวลา PP interval คงที่ และลักษณะที่สำคัญคือมีระยะเวลา PR interval
ค่อยๆยาวขึ้น จนกระทั่งมี P wave ที่ไม่มี QRS complex ติดตามมา
ในกรณีที่เป็น nonconducted
premature ventricular contraction นั้นจะมีลักษณะเป็น regular irregular
rhythm โดยจะมี P wave นำหน้า QRS complex มีระยะ PR interval คงที่ แต่พบว่าในขณะที่เกิดการเต้นผิดจังหวะนั้นจะพบว่ามีระยะ
PP interval สั้นลง มี P wave หน้าตาไม่เหมือน P wave ปกติ และไม่มี QRS complex
ติดตามมา
ในกรณีที่เป็น first degree
atrioventricular block จะพบว่ามีลักษณะเป็น regular rhythm มี P wave นำหน้า
QRS complex ทุกตัว มีระยะเวลา PR interval คงที่ แต่มีระยะเวลาที่ยาวกว่าปกติสำหรับอายุนั้น