Granulomatous
(Autoimmune) Orchitis
สาเหตุการเกิด granulomatous orchitis ชนิด
nonspecific ยังไม่ทราบแน่ชัด ส่วนมาก เกิดกับ ชายวัย กลางคน
และ มีประวัติ การบอบช้ำ มาก่อน พยาธิสภาพ โดยทั่วไป พบว่า ลูกอัณฑะ
มีขนาดโต กว่าปกติ สีขาวเทา หรือ สีน้ำตาล พบลักษณะ การอักเสบ แบบ
granulomatous อยู่ระหว่าง หลอดสร้างอสุจิ บริเวณอักเสบ
พบกลุ่มเซลล์ หลายชนิด เช่น epitheloid cells, plasma
cells, lymphocytes, multinucleated giant cells, และ polymorphonuclear
cells และ ยังพบว่า ผนังของ หลอดสร้างอสุจิ หนาขึ้น ประกอบ ด้วย
เยื่อไฟบรัส และ เซลล์อักเสบ กระจายทั่วไป บริเวณระหว่าง หลอดสร้างอสุจิ
Spermatic
granuloma เกิดจาก เชื้ออสุจิ หลุดรอด ออกจาก ท่อนำน้ำเชื้อ เข้าไปใน
เนื้อเยื่อ stroma บริเวณ เอพิดิไดมิส ทำให้เนื้อเยื้อ บริเวณดังกล่าวเกิด
การอักเสบ แบบ granulomatous มีลักษณะ เป็นก้อน tubercle สีเหลืองปนขาว ขนาด
เล็ก ประมาณ 0.5 ถึง 2.5 เซนติเมตร ภายใน granuloma พบเชื้ออสุจ ิพร้อมกับ
เซลล์อักเสบ และ epitheloid cells สาเหตุ อาจเกิดจาก ท่อนำน้ำเชื้อ แตกจาก ความบอบช้ำ
หรือ ปลายท่อ ที่ผูกไว้ จากการ ทำหมันชาย หลุด ปล่อย เชื้ออสุจิ กระจายออกไป Specific
inflammations
โรคหนองใน
(Gonorrhea)
การอักเสบ ใดๆที่เกิดกับ บริเวณ posterior
urethra อาจนำไปสู่ การอักเสบ ของ ต่อมลูกหมาก รวมถึง seminal vesicles
และ ลามสู่ เอพิดิไดมิส ได้ เช่นเชื้อ Neisseria gonorrhoeae ทำให้เกิด
การอักเสบ ในบริเวณดังกล่าว พร้อมกับ เกิดเป็นหย่อม หนองฝี ใน เอพิดิไดมิส
ถ้าหาก ไม่ได้รับ การรักษา ที่ถูกต้อง เชื้ออาจลามไปถึง ลูกอัณฑะ
ทำให้เกิด การติดเชื้อใน ลูกอัณฑะ และ เกิดเป็น หนองฝีได้
ลูกอัณฑะอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสคางทู
(Mumps orchitis)
การอักเสบ ของลูกอัณฑะ เนื่องจาก การติดเชื้อไวรัสคางทูม
พร้อมกับ ต่อมน้ำลายอักเสบ นั้น พบร่วมประมาณ ร้อยละ 20 ถึง 30
ส่วนมาก เกิดกับ ผู้ ใหญ่ พยาธิสภาพทั่วไป พบว่า ลูกอัณฑะ โตกว่าปกติ
และ พบหย่อมเลือดออก บริเวณ tunica albuginea ในระยะแรก ของการอักเสบพบว่า
ลูกอัณฑะ มีการบวมทั่วไป ต่อมา พบเซลล์อักเสบ ชนิดเฉียบพลัน กระจัดกระจาย
อยู่ตาม เนื้อเยื่อระหว่าง หลอดสร้างอสุจิ หลอดสร้างอสุจิ ส่วนใหญ่
ขยายใหญ่ พร้อมกับพบ เซลล์อักเสบ เหล่านี้ ขังอยู่ภายใน
เซลล์อักเสบ ประกอบด้วย เซลล์ neutrophils, lymphocytes, histiocytes.
ไม่ค่อยพบ หย่อมเนื้อตาย ในบริเวณ หลอดสร้างอสุจิ ในรายที่มี
การอักเสบรุนแรง พบเพียง การเสื่อมของเซลล์
germinal และ เซลล์สร้างอสุจิ เท่านั้น หรือ อาจพบ
การสร้างเซลล์อสุจิ น้อยลง ในกรณี ที่เกิด การอักเสบนาน พบว่า
เซลล์อักเสบ ส่วนใหญ่เป็น เซลล์ lymphocytes จำนวน หลอดสร้างอสุจิ
ลดลง และผนัง หลอดสร้างอสุจิ หนา พร้อมกับมี เยื่อเกี่ยวพัน เพิ่มมากขึ้น
ทำให้ ลูกอัณฑะ มีขนาด เล็กลง เกิด การฝ่อ ของหลอดสร้างอสุจิ อาจถึงกับ ทำให้ผู้ป่วย
เป็นหมันได้
ลูกอัณฑะอักเสบ
จาก การติดเชื้อวัณโรค (Tuberculous orchitis and epididymitis) วัณโรค
ของ ลูกอัณฑะ และของ เอพิดิไดมิส มักจะพบร่วมกัน และเกิด ข้างใดข้างหนึ่ง
ผู้ป่วยส่วมมาก มีประวัติเป็น วัณโรคที่ปอด หรือที่ ระบบทางเดินปัสสวะ มาก่อน พยาธิสภาพ
พบเป็นก้อน สีเหลืองขาว ขนาดเล็ก กระจายทั่วไป บริเวณ เอพิดิไดมิส หรือลูกอัณฑะ
หน้าตัด ทึบ มีสีเหลืองปนขาว เหมือน เนย การอักเสบเป็นแบบ caseating
granulomatous เหมือนวัณโรค ที่พบบริเวณอื่น ถ้าย้อมด้วยสี acid fast พบเชื้อ Mycobacterium
tuberculosis
ลูกอัณฑะอักเสบจากการติดโรคซิฟิลิส
(Syphilitic orchitis)
ผู้ที่เป็น โรคซิฟิลิส มักจะพบ พยาธิสภาพ
ของโรคซิฟิลิส ในลูกอัณฑะ ของผู้ป่วยด้วยเสมอ พยาธิสภาพ อาจเป็น แบบการอักเสบ
ทั่วไป พร้อมเยื่อไฟบรัส กระจายทั่วไป ในลูกอัณฑะ หรือ พบเป็น ก้อนกัมม่า
(gummas) ก้อนเดียว หรือ หลายก้อนก็ได้ ลูกอัณฑะ ที่เป็น โรคซิฟิลิส
มีขนาดโต กว่าปกติ โดยมากแข็ง กลม หน้าตัดทึบ มีสีขาวเทา ปนเหลือง ในรายที่
เป็น กัมม่า มีลักษณะเหลือง ขาวนูน ออกจากเนื้อเยื่อ รอบข้าง กัมม่ามีลักษณะเป็น
เนื้อตาย ตรงกลางก้อน และ ล้อมรอบด้วย เยื่อไฟบรัส เซลล์พลาสม่า
(plasma cell) และ multinucleated giant cells ถ้าย้อมพิเศษ
(Levaditi หรือ Warthin Starry stain) จะพบเชื้อ spirochetes
ในบริเวณ กัมม่าได้ สำหรับ ในรายที่ เป็นเรื้อรัง ขนาดของลูกอัณฑะ มักเล็กลง
พยาธิสภาพ โดยทั่วไป พบเป็น เยื่อไฟบรัส ส่วนใหญ่ หลอดสร้าง เชื้ออสุจิ มักฝ่อ
ผนังหลอด หนา เป็นสีแดงชมพู นอกจากนี้ พบว่า interstitial cells มีจำนวน
มากขึ้น
Chronic
vaginaliti (Chronic proliferative periorchitis, pseudofibromatous periorchitis)
ลูกอัณฑะ แข็งเป็น ตุ่มก้อน ส่วนมาก เกิดบริเวณ tunica vaginalis
และ พบว่า ก้อนเหล่านี้ เกิดจาก การเพิ่มจำนวน ของเยื่อไฟบรัส
สาเหตุ การอักเสบชนิดนี้ ยังไม่เป็นที่ทราบ แน่ชัด มักเกิดกับ ผู้ป่วย
อายุระหว่าง 20 ถึง 40 ปี พยาธิสภาพ ทั่วไปพบว่า บริเวณ tunica
vaginalis หนาขึ้น พบก้อน กลมมี ขนาดต่างๆกัน เส้นผ่า ศูนย์กลาง ระหว่าง
1 มิลลิเมตร ถึง 2 เซนติเมตร กระจาย ไปทั่ว ทั้งบริเวณ tunica
vaginalis และ epididymis ที่หน้าตัด ลูกอัณฑะ พบก้อน เหล่านี้ กระจายทั่วไป
มีขอบเขตชัดเจน สีขาว ทึบ บางก้อนแข็ง เนื่องจาก มี หินปูนพอก ภาพจาก
กล้องจุลทรรศน์ พบว่า ประกอบด้วย กลุ่มเซลล์ ที่มีขนาด ยาว ส่วนมากเป็น
ไฟบรัส และ คอลเลเก้น (collagen) เซลล์เหล่านี้ ประสานกัน เป็นฟ่อน
หรือ เป็นวงๆ อาจพบ เซลล์อักเสบ ในก้อนเหล่านี้ได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่
ที่พบเป็น เซลล์ lymphocytes และ เซลล์พลาสม่า